ไม่รู้เพราะอะไรหาหมอหลายที่หลายโรงพยาบาลแล้วก็ยังไม่มีลูกสักที การมีลูกไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย พยายามทำทุกหนทางก็ยังไม่มีทายาทสมใจสักที คู่รักหลาย ๆ คู่ก็เลยหันมาลองใช้วิธีนับวันตกไข่ของฝ่ายหญิงนี่แหละ เพราะเคยได้ยินมาว่า หากมีเพศสัมพันธ์กันในวันที่ฝ่ายหญิงตกไข่จะทำให้ตั้งครรภ์ได้ดังใจ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าที่เขาพูดกันมาเนี้ยเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า วันตกไข่คือวันไหน กระปุกเบบี้เลยมีคำแนะนำมาบอกให้รู้กันแล้ว
ตกไข่ คืออะไรนะ
ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการ
"ตกไข่" (หรือบางคนเรียก "ไข่ตก") “ฟังแล้วก็สงสัยอยู่เหมือนกันเนอะ”
แต่นี่ก็เป็นเรื่องของร่างกายเราที่คุณสาว ๆ ทั้งหลาย
ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดควรรู้เอาไว้บ้างค่ะ อย่างที่รู้ว่าในระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงจะมีรังไข่อยู่
2 อัน คือข้างซ้ายและขวา รังไข่แต่ละข้างจะมีหน้าที่สลับกันผลิตไข่เดือนละครั้ง
เมื่อถึงเวลาไข่สุก ไข่จะเคลื่อนออกจากรังไข่เข้าไปสู่ท่อนำไข่
เท่ากับว่าผู้หญิงจะตกไข่เดือนละ 1 ใบเท่านั้นเอง
ผู้หญิงทุกคนจะมีไข่ถูกผลิตขึ้นมาตั้งแต่เราเกิดประมาณ 1-2 ล้านฟอง
แต่จะมีไข่เพียง 300-400
ใบเท่านั้นที่จะมีการเจริญเติบโตเต็มที่เป็นไข่ที่สมบูรณ์พร้อมที่จะรับการปฏิสนธิ
ตกไข่แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อมีการตกไข่เกิดขึ้น
มดลูกจะสร้างผนังมดลูกให้หนาตัวขึ้น และส่วนนี้ก็จะมีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้นด้วย
เพื่อรองรับการปฏิสนธินั่นเอง ดังนั้น หากคุณผู้หญิงอยู่ในช่วงตกไข่
ก็อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายเกิดขึ้นได้ใน 2 แบบก็คือ
มีโอกาสตั้งครรภ์ ถ้าคุณผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์ในช่วงตกไข่พอดี
อสุจิที่เคลื่อนเข้ามาในท่อนำไข่จะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ที่บริเวณท่อนำไข่ด้านที่ใกล้กับรังไข่
และเมื่อไข่ได้รับการผสมแล้วจะเคลื่อนตัวเข้าไปฝังตัวในผนังมดลูก
เพื่อเติบโตเป็นเด็กทารกต่อไป
มีประจำเดือน ในกรณีที่ไม่มีอสุจิเข้ามาผสมกับไข่ในช่วงตกไข่
ไข่ที่ตกมาจะสลายตัวก่อนผ่านไปถึงมดลูก เมื่อมดลูกเห็นว่าไม่มีตัวอ่อนมาฝังที่ผนังมดลูกแล้ว
ผนังหนา ๆ
หรือที่เรียกว่าเยื่อบุโพรงมดลูกที่เคยสร้างไว้และมีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงก็จะสลายตัวเช่นกัน
แล้วไหลไปทางช่องคลอดออกสู่ร่างกาย อย่างที่เรียกว่า "ประจำเดือน"
ซึ่งโดยปกติจะมาทุก ๆ 28 วันค่ะ แต่ให้บวกลบ 7 คือในบางคนอาจมีรอบเดือนสั้นทุก ๆ
21 วัน ขณะที่บางคนอาจมีรอบเดือนยาวถึง 35 วันเลย
ปกติแล้วเด็กผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุประมาณ 12 ปีขึ้นไป
และจะมีประจำเดือนไปทุกเดือนจนกว่าจะอายุ 50 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม
บางคนอาจจะมีประจำเดือนตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 12 ปี
หรือบางคนอาจเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 50 ปีก็ได้
ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกายในแต่ละคน
มีเพศสัมพันธ์ตอนตกไข่ท้องแน่เหรอ
อย่างที่บอกไปแล้วนะจ๊ะว่า หากมีอสุจิเข้ามาผสมกับไข่ในช่วงตกไข่พอดี
คุณผู้หญิงก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เพราะฉะนั้น
ช่วงนั้นก็ต้องชวนคุณสามีทำการบ้านกันให้บ่อยขึ้นหน่อยเนอะ ><
เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
แต่หากไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ไข่ก็จะสลายไป
เลยมีทริคแนะนำว่า
ถ้าลองคำนวณดูแล้วไม่แน่ใจว่าวันที่คำนวณได้จะใช่วันตกไข่จริงหรือเปล่า
ก็แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์กันในช่วงสองวันก่อนหน้า
และสองวันหลังของวันที่คำนวณได้ไว้ด้วย เป็นการเผื่อเหลือเผื่อขาดในช่วง 5
วันนี้แหละ เพราะแม้ว่าไข่ที่ตกจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 12-24 ชั่วโมงเท่านั้น
แต่อสุจิสามารถอยู่ได้นานถึง 3-5 วันเลย ดังนั้น
หากมีอสุจิค้างอยู่มาเจอกับช่วงที่ไข่ตกลงมาจ๊ะเอ๋กันพอดี ก็ได้เฮล่ะ
อีกอย่างที่ควรรู้ก็คือ
การมีเพศสัมพันธ์ทุกวันไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นนะคะ เพราะยิ่งมีเพศสัมพันธ์ทุกวัน
อสุจิก็ยิ่งมีน้อยลงไปด้วย จึงแนะนำให้มีเพศสัมพันธ์แบบวันเว้นวันจะดีกว่า
การที่ว่าจะรับประกันได้ไหมว่าหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้จะทำให้ตั้งครรภ์ร้อยเปอร์เซ็นต์
ต้องอธิบายว่า คงไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ เพราะการจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
รวมทั้งสุขภาพของคุณพ่อที่เกี่ยวข้องกับความแข็งแรงของอสุจิเองด้วย
วันตกไข่ดูยังไง
มาถึงคำถามที่คนอยากมีลูกอยากรู้ว่าจะคำนวณวันตกไข่ให้เป๊ะ ๆ อย่างไรล่ะ
ถึงจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงสุด ขอบอกว่าโดยปกติแล้ว ไข่จะตกในช่วงประมาณ 2
สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา ซึ่งการจะคำนวณวันตกไข่ให้แม่น ๆ นั้น
มักจะใช้ได้กับคุณผู้หญิงที่รอบประจำเดือนมาตรงเท่านั้น คือ หากรอบเดือนมาทุก 28
วัน ไข่จะตกในราววันที่ 14 ของรอบเดือนค่ะ (นับวันที่ประจำเดือนมาเป็นวันที่ 1)
หรือหากใครมีรอบเดือนสั้นกว่านี้ ไข่ก็จะหล่นเร็วขึ้นหลังจากประจำเดือนมาวันแรก
ถ้าอยากรู้ว่าประจำเดือนเรามาสม่ำเสมอหรือไม่ ก็ให้หาปฏิทินมา
เมื่อประจำเดือนมาวันไหนก็ให้กาลงในปฏิทินเลย ทำไปเรื่อย ๆ สัก 3-4 เดือน
แล้วลองนับช่วงระยะห่างที่ประจำเดือนมาวันแรกดู เราก็จะรู้แล้วว่าประจำเดือนของเรามาสม่ำเสมอดีไหม
แต่ถ้าคุณผู้หญิงคนไหนที่รอบประจำเดือนไม่ค่อยตรง
การคำนวณวันตกไข่ก็อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ แต่จริง ๆ เราก็พอมีวิธีสังเกต
หรือสัญญาณบอกว่าอาจเรากำลังอยู่ในช่วงตกไข่อยู่เหมือนกัน นั่นคือ...
วัดอุณหภูมิของร่างกาย ปกติแล้วก่อนตกไข่ อุณหภูมิของร่างกายจะลดลง
กระทั่งเมื่อไข่ตกไปแล้ว อุณหภูมิจึงจะเพิ่มขึ้น
เพราะรังไข่หลั่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนออกมา ดังนั้น
คุณผู้หญิงต้องลองวัดอุณหภูมิของตัวเองดูแล้วจดบันทึกไว้ให้ครบรอบวงจรจากวันที่ 1
ของการมีประจำเดือนไปจนถึงวันที่ 1 ของการมีประจำเดือนมาอีกรอบ
โดยควรจะวัดเวลาเดียวกันทุกเช้าก่อนลุกจากที่นอน ก่อนดื่มน้ำ รับประทานอาหาร
เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์จะทำให้อุณหภูมิของร่างกายเราสูงขึ้นในช่วงเช้า
สังเกตอาการปวดท้องของตัวเอง ข้อนี้หลายคนคงรู้สึกได้ว่าก่อนประจำเดือนมา
เราจะมีอาการปวดหน่วง ๆ ที่ท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง
ขึ้นอยู่กับว่าเดือนนั้นไข่จากรังไข่ฝั่งไหนจะตก และอาจมีอาการอ่อนเพลีย
แขนขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีเลือดออกมาจากช่องคลอดเล็กน้อย 1-2 วัน
มีตกขาวออกจากช่องคลอด ตกขาวจะมีลักษณะเป็นของเหลวมูก ๆ คล้ายไข่ขาวดิบ
หรือวุ้นเหนียว ๆ ถ้าช่วงไหนมีมูกมาก ๆ เยิ้ม ๆ แสดงว่าเป็นช่วงตกไข่
และช่วงนี้ปากมดลูกจะนุ่มขึ้น ใหญ่ขึ้น และชื้นมากขึ้นด้วย
อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ากำลังอยู่ในช่วงตกไข่
แต่อาจจะระบุวันที่แบบเป๊ะ ๆ คงไม่ได้เหมือนกันค่ะ
เพราะวงจรการตกไข่ของแต่ละคนแต่ละเดือนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกิจวัตรประจำวัน
สภาวะจิตใจ อารมณ์ของคุณในช่วงนั้นด้วย
ชุดทดสอบระยะตกไข่ ใช้อย่างไร ?
คนที่มีรอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออาจลองหาซื้อชุดทดสอบระยะตกไข่จากร้านขายยามาตรวจสอบดูก็ได้ค่ะ
ซึ่งทดสอบได้เองไม่ยากเลย แค่ตรวจวัดระดับฮอร์โมน LH (Luteinizing
hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเหนี่ยวนำให้ไข่ตกที่พบได้จากปัสสาวะ
ถ้าอยู่ในช่วงใกล้ไข่ตก ค่า LH จะเพิ่มมากขึ้น
และจะไปสูงสุดในวันที่ไข่ตกนั่นเอง ถ้าลองทดสอบดูแล้วเห็นแถบสีจาง ๆ
แล้วเข้มขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่าใกล้จะตกไข่แล้ว
ช่วงนี้ก็คงต้องเร่งให้คุณสามีมาปั๊มลูกบ่อยครั้งขึ้นหน่อยล่ะ
แต่ถ้าทดสอบไปแล้วสีเข้ม ๆ ค่อย ๆ จางลง แสดงว่าผ่านพ้นช่วงตกไข่ไปแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม
ต้องบอกด้วยว่าการตรวจปัสสาวะนี้อาจให้ผลแม่นยำได้ไม่มากเท่ากับตรวจเลือด
ถ้าสามีภรรยาคู่ไหนอยากมีลูกจริง ๆ ก็อาจใช้วิธีตรวจเลือดแทน
ซึ่งจะให้ผลแม่นยำและละเอียดกว่าการตรวจปัสสาวะ
จากที่ได้อ่านมาข้างต้นคงพอเข้าใจเรื่องการตกไข่แล้วล่ะฝ่ายหญิงที่อยากมีลูกก็ลองเก็บข้อมูลตรงนี้แล้วไปนับวันดูเลย
แต่ถ้าพยายามแล้วก็ยังไม่มีเบบี้ตัวน้อย ๆ มาจุติในท้องเสียที
คงต้องเข้าไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อขอคำแนะนำกันแล้วล่ะค่ะ
ซึ่งคุณหมอก็อาจจะใช้วิธีให้ยากระตุ้นการตกไข่ หรืออาจแนะนำวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นก็ได้