จากการวิจัยของหลายสถาบันได้ผลศึกษามาว่าการจูบเป็นการสัมผัสกายรักเป็นครั้งแรกก่อนที่จะเริ่ม …… ฮื่อเริ่มฟินกับการสัมผัสเนื้อตัว แหม่อย่าคิดเยอะค่ะหรือว่าเราคิดคนเดียวย้ำจากผลการวิจัย แต่ไม่เป็นไรเรามารู้จักกับการจูบแบบวิชาการกันหน่อยดีกว่าว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายยังไง เรามีมาให้ได้ศึกษาความเป็นไปได้อยู่ 5 ประการเริ่มเลยดีกว่า
1.
การจูบอาจจะเพิ่มภูมิต้านทาน
งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้อ่านเจอบทความในวารสารของ Medical Hypotheses บอกว่า
การจูบอาจเพิ่มภูมิต้านทานในผู้หญิงต่อไวรัส Cytomegalovirus ซึ่งติดต่อกันผ่านทางปาก และปกติแล้วไม่เป็นอันตรายอะไร
แต่อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อเด็กในครรภ์หลายอย่าง
ถ้ามารดามีเชื้อตัวนี้ในระหว่างตั้งครรภ์
การจูบเชื่อกันว่าเป็นการส่งต่อไวรัสตัวนี้และทำให้ป้องกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น
2.ช่วยคุณเลือกคู่ที่ดีที่สุด(ที่ไม่ค่อยจะรักกันเท่าไร)
เมื่อคุณจูบใครสักคนคุณสามารถสัมผัสเขาได้อย่างลึกซึ้ง
มันจึงเป็นเหมือนการโฆษณาที่ชัดเจนถึงตัวตนของคุณและยังเป็นวิธีการทางชีววิทยาที่จะกำหนดว่าใครคือคนที่เข้ากับคุณได้ดีที่สุดในทางการจูบ
3.ช่วยเผาผลาญแคลอรี(เป็นยาลดความอ้วนอย่างดี)
การจูบช่วยเผาพลาญแคลอรีตั้งแต่ 2-6 แคลอรีต่อนาที
อาจไม่มากนัก แต่การจูบกันสักชั่วโมงก็อาจเผาผลาญ ช็อกโกแลต MM ได้สักกำมือหนึ่งหรือไวน์สักครึ่งแกล้วล่ะนะ
4.ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าแข็งแรงจากการจูบที่สุดฟิน
นักวิจัยบอกว่าคุณใช้กล้ามเนื้อหน้าราว 30 มัดในการจูบ
จึงช่วยให้กล้ามเนื้อแก้มเต่งตึง เพราะการจูบจะมีการเก่งกล้ามเนื้อส่วนหน้า
หรือตื่นเต้นจนหน้าตึงมากกว่า เอาฮา
5.ช่วยให้ผ่อนคลายจากอาการเคลียร์
จากผลการวิจัยหลายสถาบันซึ่งมีรายงานทางวิทยาศาสตร์บอกว่าการจูบเพิ่มระดับของออกซีโทชิน
สารเคมีในร่างกายที่ช่วยให้สงบ เอ็นดอร์ฟินส์ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกดี รู้สึกฟินกันและโดพามีนที่เพิ่มความรู้สึกผูกพันกันด้วย
รู้อย่างนี้มาจูบกันไหม..แต่ดูตาม้าตาเรือหน่อย จูบคนมีเจ้าของอาจจะโดนตีได้
คุณรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
ความรู้ไม่หมดไปจากโลกขนาดการจูบกันซึ่งบางคนยังจูบทุกวันเพื่อเพิ่มรสชาติความรักให้กับชีวิต
แล้วคุณละค่ะไม่คิดที่จะจูบคนข้างๆ ของเราบ้างหรือเปล่า