หลายต่อหลายครั้งที่อ่านบทความของการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตหรือผ่านทางมือถือนั้นพบว่าการทำธุรกรรมต่างๆมาจากผู้หญิงซะส่วนใหญ่แต่ว่าอันที่จริงแล้วแหน่งนักช็อปอยู่ในโพลของหลายสำนัก แต่ผลสำรวจในวันนี้กลับผิดคาดเมื่อพบว่าผู้ชายกลับเป็นกลุ่มที่มีจำนวนการซื้อสินค้าผ่านทางโทรศัพท์มือถือสูงกว่าผู้หญิง แถมยังมีสัดส่วนการเขียนรีวิวสินค้า และวิจารณ์กระบวนการซื้อสินค้านั้นบนเครือข่ายสังคมมากกว่า
พอดีไปเจอเว็บไซต์ที่เขาทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ
เว็บไซต์ USamp.คอม ในสหรัฐฯ
ได้ทำการสำรวจจากลุ่มตัวอย่างทั้งเพศชายและหญิงกว่า 1,000 คน
(ไม่ระบุสัญชาติ) เกี่ยวกับการเลือกซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ
พบว่าผู้ชายเป็นกลุ่มที่นิยมซื้อสินค้าผ่านทางโทรศัพท์มือถือสูงกว่าผู้หญิง
โดยกลุ่มผู้ชายมีสัดส่วนสูงถึง 45% ในขณะที่ผู้หญิงที่มีสัดส่วนตามหลังอยู่ที่
34%
สำหรับพฤติกรรมนักซ้อปออนไลน์อื่นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าบนมือถืออย่าง
การสแกนบาร์โค้ด การชำระค่าสินค้าผ่านมือถือ
การเขียนคอมเม้นท์และรีวิวสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย
ก็ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชายสูงกว่าผู้หญิงด้วยเช่นกัน มีเพียงแค่การใช้โมบายล์คูปองเท่านั้น
ที่พบว่าเพศหญิงมีการใช้งานที่สูงกว่า ซึ่งมีสัดส่วนการใช้งานอยู่ที่ 44% และเพศชาย 35%
สินค้าที่หนุ่มยุคใหม่ซื้อผ่านโทรศัพท์มือถือมากที่สุดคือดิจิตอลคอนเทนต์
เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เกตเจ็ตต่างๆ (30%)
รองลงมาเป็นสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ (27%) และบัตรชมภาพยนตร์หรือบัตรงานอีเวนต์
(23%)
เช่นเดียวกับกลุ่มสาวไฟแรงที่ช็อปออนไลน์ก็พบว่าดิจิทัลคอนเทนต์ได้รับความนิยมสูงที่สุดเหมือนกันกับผู้ชายส่วนใหญ่ซื้อกัน
(20%)
ตามมาด้วยบัตรชมภาพยนตร์หรือบัตรงานอีเวนต์ (11%) รวมไปถึงสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์
อาหารเครื่องดื่มและสินค้าประเภทสุขภาพความงาม (8%)
จากการสำรวจเป็นที่น่าสนใจคือ
ทั้งหนุ่มและสาวยุคนี้นิยมซื้อสินค้าขณะอยู่ในที่ทำงานสูงที่สุด (ชาย 25%/
หญิง 15%) รองลงมาเป็นขณะอยู่ในห้องห้องพักผู้โดยสารหรือห้องที่ใช้นั่งรอ
(ชาย 8%/ หญิง 12%) แม้แต่ในชั้นเรียนก็ยังมีการสั่งซื้อ
(ชาย 4%/ หญิง 2%) และขณะอยู่ในการประชุม
(ชาย 3%/ หญิง 1%)
จากการสำรวจได้นำเอาข้อมูลทั้งหมดมาแสดงพบว่าไม่เฉพาะผู้หญิง
แท้จริงแล้วผู้ชายก็มีอิทธิพลในตลาดการซื้อขายสินค้าบนอุปกรณ์มือถือไม่แพ้กัน
ดังนั้นทุกคนจึงควรเรียนรู้ถึงพฤติกรรมและความต้องการที่แตกต่างกันระหว่าง 2
เพศ เพื่อจะได้ตอบความต้องการของทั้ง 2 กลุ่มได้ดียิ่งขึ้นว่าจะเลือกขายสินค้าหรือเลือกเจาะจงกลุ่มเป้าหมายในลักษณะได